เราควร เติมลมยาง ให้มีประสิทธิภาพยังไงบ้าง

การ เติมลมยาง มีหลายคนที่ยังเชื่อว่า “ต้องเติมให้แข็ง ๆ โป๊กเข้าไว้ ยางจะได้ไม่อ่อน” ซึ่งผู้เขียนมองว่ามันไม่เสมอไป เนื่องจากการเติมลมยางจะต้องอยู่ที่ปริมาณ และความเหมาะสมต่อสภาพการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเติมลมยางของรถจักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ หรือรถ 6 ล้อขึ้นไป นอกจากนี้รถยนต์แต่ละรุ่นก็เติมลมยางไม่เหมือนกัน จะต้องเติมลมยางให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลักมากกว่าจะเน้นให้แข็งไว้ก่อน ซึ่งบทความนี้จะมาแนะนำวิธีการเติมลมยางให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้ขับขี่ได้ตามปกติ จะมีทริคการเติมลมยังไงบ้าง จะขออธิบายได้ดังนี้

ทริคเด็ด ๆ ที่จะเติมลมยางให้คงทน เราจะทำยังไงได้บ้าง

ค่า PSI เป็นค่าเต็ม ๆ ที่เรียกว่าปอนด์ต่อตารางนิ้ว การเติมอย่างเต็มที่โดยเฉลี่ย ไม่ควรเกิน 36 PSI เลย เพราะมันเป็นค่าสูงสุดของการเติมลมยางทั้งมวล แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเลือกลมยางให้เหมาะสมกับสภาพรถเก๋งแต่ละคันว่าควรเติมได้เท่าไหร่ ซึ่งจะมีทริคดังนี้

  • ถ้าเป็นรถเก๋งที่มีขนาดเล็ก อย่างรถยนต์กลุ่ม Eco Car จะต้องเติมลมยางอยู่ที่ 25-30 PSI
  • ถ้าเป็นรถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ รวมถึงรถกลุ่มซีดานขนาดกลาง เอสยูวีและครอสโอเวอร์ จะต้องเติมลมยางอยู่ที่ 30-35 PSI
  • ถ้าเป็นกลุ่มรถกระบะ หรือรถที่เป็นรถสายลุยป่า จะต้องเติมลมยางอยู่ที่ 35-65 PSI
  • การเติมลมยางไม่ควรเติมให้แข็งโป๊กจนเกินไป ซึ่งเป็นวิธีผิด ๆ ที่ใคร ๆ เชื่อกันว่า เติมแข็ง ๆ ไว้ก่อน ลมจะได้อยู่ในยางนาน ๆ จริง ๆ แล้วจะเร่งให้ดอกยางเสื่อมเร็ว จะยกเว้นกรณีรถบรรทุกจะต้องเติมให้แข็งล่วงหน้า เพราะจะต้องขับขี่อยู่บนท้องถนนตลอดเวลา รวมถึงรถแบบลุยป่าหรือ Off Road ควรเติมลมยางให้อ่อน เพื่อที่จะได้ปีนหิน ลุยป่าได้ในเส้นทางที่สมบุกสมบัน
  • การเติมลมยางนอกจากไม่ควรอ่อนเกินไป หรือแข็งเกินไปแล้ว อ่อนมากไปดอกยางก็จะใช้งานไม่เสมอกัน แต่ถ้าเติมลมยางจนแข็งเกินไป ก็มีโอกาสที่ล้อยางจะระเบิดได้มากเช่นกัน ฉะนั้นควรเติมลมยางเท่าที่พอดี ๆ เพื่อที่จะได้รับทั้งแรงดันจากลมในยางและสภาพแวดล้อมด้วย
  • ในกรณีที่ต้องวิ่งในระยะไกล ๆ เช่น วิ่งข้ามจังหวัด หรือขับรถข้ามไปชายแดนที่มีถนนผ่านระหว่างกัน ควรเติมลมยางเพิ่มเติมประมาณ 3-5 PSI
  • รถยนต์บางรุ่นจะบอกสเปคในการเติมลมยางว่า รุ่นนี้ควรเติมประมาณไหน ถ้าเติมแล้วยางยังแบนอีก อันนี้เป็นปัญหาที่ยางแล้ว ให้รีบเช็คสภาพยาง หรือเปลี่ยนยางทันที เพื่อป้องกันปัญหาเวลาการขับขี่ในระยะไกล ๆ หรือเวลาจำเป็น ๆ จะได้ไม่ต้องรู้สึกหงุดหงิดในภายหลัง