ประเภทของรถยนต์ แต่ละแบบแตกต่างกันยังไง

หลายคนที่กำลังมองหารถยนต์มาใช้งาน คงจะมีข้อสงสัยว่า ทั้ง ๆ ที่ก็ใช้เพื่อการขับขี่เหมือนกัน แล้วจะมีหลายแบบไปทำไม และแต่ละแบบมันเหมาะกับการใช้งานแบบไหน ซึ่งในโลกของอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่รถเก๋ง กระบะ หรือมอเตอร์ไซค์ เพียงเท่านั้น เพราะจริง ๆ แต่ละประเภทก็มักจะมีชื่อเรียกที่ตายตัวแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะรถยนต์ ที่วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าเดิม เผื่อว่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อมาใช้งาน เพื่อให้เหมาะกับความต้องการมากที่สุด

  1. ซีดาน (Sedan)

สำหรับโมเดลชนิดนี้ ถือเป็นโมเดลที่มีความคุ้นชินมากที่สุด มีการใช้งานเป็นจำนวนมากบนท้องถนน ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการเป็น รถครอบครัว มีขนาดที่กะทัดรัด จุดเด่นก็คือ ตัวถึง 4 ประตู และมีโซนเฉพาะสำหรับห้องสัมภาระท้ายใต้กระจกหลัง ที่ส่วนนี้จะถูกแยกออกมาอย่างชัดเจน โดยที่คนไทยส่วนใหญ่มักจะเรียกรถประเภทนี้ว่า รถเก๋ง นั่นเอง

  1. แฮตช์แบ็ก (Hatchback)

สำหรับ แฮตช์แบ็ก (Hatchback) จะเป็นรถยนต์ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับรถซีดาน แต่จะมีส่วนของช่วงท้ายที่สั่นกว่า ซึ่งจะมีทั้งรุ่น 3 ประตู และ 5 ประตู รถประเภทนี้จะมีพื้นฐานทุกอย่างที่พัฒนาออกมาคล้ายกับรถซีดาน เนื่องด้วยราคาที่สามารถจับต้องได้ จึงถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย

  1. สเตชั่นแวกอน (Station Wagon)

สำหรับรถชนิดนี้ จะมีความคล้ายกับ แฮตช์แบ็ก (Hatchback) แต่จะมีส่วนท้ายที่ยื่นออกมายาวมากกว่า เหมาะสำหรับใช้งาน สามารถบรรทุกสัมภาระได้เยอะ เพราะรถถูกออกแบบมาให้เพิ่มจำนวนเสาของตัวรถ รถประเภทนี้จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับกลุ่มบุคคลที่จะนำมาใช้งานเป็นรถครอบครัว ดีไซน์สวย ทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งานอย่างสุด ๆ

  1. คูเป้ (Coupe)

สำหรับรถประเภทนี้ จะถูกนำเสนอออกมาโดยเป็นรถ 2 ประตู โดยจะมีจุดเด่นก็คือหลังคาที่ออกแบบมาให้สามารถลาดท้ายได้ ส่วนมากจะเป็นรถที่นำเสนอออกมาในรูปแบบของ รถสปอร์ต เป็นรถที่มีตัวเลขในการตีตลาดที่กระโดดสูงที่สุด ถือเป็นทางเลือกอีกหนึ่งรูปแบบ ที่เหมาะกับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน

  1. ครอสโอเวอร์ (Crossover)

รถประเภทครอสโอเวอร์หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่ารถ CUV รถชนิดนี้จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ โดยนำเอาโครงสร้างตัวถังแบบ Unibody หรือแชสซีส์และตัวถังเป็นชิ้นเดียวกันมาปรับปรุง และพัฒนา สามารถลุยไปได้ทุกเส้นทาง มีความทนทานที่สูง จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์แอคเจนเจอร์ เป็นอย่างมาก

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงประเภทหลัก ๆ ที่สามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน และสามารถนำมาใช้งานกับชีวิตประจำวันได้จริง ซึ่งความหลากหลาย และลักษณะที่โดดเด่นที่แตกต่างกันไป ที่เหมาะกับการใช้งานในแต่ละประเภท ซึ่งใครที่กำลังมองหารถมาใช้งาน ควรศึกษาให้ดี เพราะความสามารถบางอย่าง ถ้าซื้อมาแล้วกลับไม่ได้ใช้งาน ก็อาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานลดลงอย่างน่าเสียดาย